จวนจะสิ้นปีเก่าและขึ้นปีใหม่เข้าไปทุกที หลายคนอาจถือโอกาสนี้เตรียมเริ่มต้นชีวิตใหม่และวางแผนให้ปีต่อ ๆ ไปนั้นดียิ่ง ๆ ขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบการจัดการเวลาและวางแผนชีวิตก่อนลงมือทำโดยใช้วิธีการจดบันทึกลงสมุดมาโดยตลอด และปีนี้ได้ตัดสินใจลองดีไซน์สมุด Planner ขึ้นมาใช้เอง เพื่อตอบสนองการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ภายใต้ชื่อง่าย ๆ ว่า “Simple Planner“
สมุด Simple Planner นี้เปรียบเสมือนผู้ช่วยหรือเลขาฯ ส่วนตัวที่จะช่วยกำหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตอันรุงรัง และจัดการชีวิตให้ดี๊ดี ขนาด A5 เหมาะแก่การจดบันทึกและพกพา
ส่วนประกอบของสมุด Simple Planner
ด้านในเป็นกระดาษถนอมสายตา จำนวน 220 หน้า ประกอบไปด้วย…
1.) Overview Calendar ปี 2017 – 2018 สำหรับเริ่มต้นวางแผนตลอดปีจากการมองภาพรวม
2.) Yearly Planner สำหรับกำหนดเป้าหมาย กำหนดการ วันสำคัญ รวมถึงวันเกิดของคนสำคัญในแต่ละเดือน มาควบคู่กับหน้า Yearly Goals สำหรับกำหนดเป้าหมายเฉพาะด้าน สูงสุด 12 ด้าน เช่น เป้าหมายด้านการศึกษา เป้าหมายท่องเที่ยว เป้าหมายเชิงสุขภาพ เป้าหมายเพื่อครอบครัว ฯลฯ
3.) Project Planner สำหรับการวางแผนเป้าหมายใหญ่ที่สำคัญโดยละเอียดทุกขั้นตอน เช่น Project สอบเข้ามหาวิทยาลัย เราก็ต้องกำหนด Main Steps เช่น 1) เรียนพิเศษและอ่านทบทวนบทเรียน 2) สมัครสอบ 3) ยื่นคะแนน สอบข้อเขียน สัมภาษณ์ ตามลำดับ
4.) Monthly Tracker ช่วยจดบันทึกวินัยในการทำ habits หรือ tasks ต่าง ๆ เกี่ยวกับ goals ของคุณที่ต้องทำเป็นประจำทุกเดือน เช่น นัดทำฟัน เปลี่ยนคอนแทคเลนส์ ตรวจสุขภาพ ฯลฯ หรือจะดัดแปลงตารางให้เป็นตารางไทม์ไลน์การทำงานของโปรเจ็คต์ใดโปรเจ็คต์หนึ่งของปีนั้น ๆ ก็ยังได้
5.) Payment Tracker สำหรับลิสต์ว่า ในแต่ละเดือน เรามีรายจ่ายฟิกซ์คอสต์เท่าไหร่ และมีบันทึกช่วยจำว่า แต่ละบิลมีกำหนดจ่ายภายในวันไหน พร้อมบันทึกว่า แต่ละเดือน ๆ เสียค่านี่นั่นโน่นเท่าไหร่บ้าง เพิ่มขึ้นหรือลดลงจากเดือนก่อน และเดือนนี้ชำระหรือยัง เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าเช่าหอ ฯลฯ
6.) Money Tracker สำหรับบันทึกรายรับ รายจ่าย เงินออม หนี้สิน และยอดเงินโดยภาพรวมตลอดปี ช่วยให้คุณวางแผนจัดการการเงินของคุณทั้งปัจจุบันและอนาคตได้ดียิ่งขึ้น เงินเหลือเก็บ!
7.) Monthly Planner สำหรับจัดการตารางงานและนัดหมายในแต่ละเดือน ๆ
8.) Weekly Tracker สำหรับกำหนดสิ่งที่ต้องทำเป็นประจำในแต่ละสัปดาห์และติดตามเป้าหมายของตัวเองในแต่ละเดือน เช่น ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ ต้องไปฟิตเนส และทุกวันเสาร์ ต้องทำแบบฝึกหัดเตรียมสอบ GAT-PAT เป็นต้น
9.) Weekly Planner สำหรับจัดการตารางงานและนัดหมายในแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์ โดยแบ่งเป็นสองส่วน ได้แก่ ส่วนที่เป็นเวลานัดหมาย (เช่น เรียนเปียโน 17:00 – 18:00 หรือ มีตติ้ง 13:00 – 15:00 น.) และส่วนที่สองเป็นส่วน To-do list ในแต่ละวัน ซึ่งมีให้ลิสต์สูงสุด 10 tasks ต่อวัน
10.) Monthly Review สำหรับทบทวนทุกสิ้นเดือนว่า ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เราประสบความสำเร็จเรื่องใดบ้าง ได้เรียนรู้หรือพัฒนาตัวเองด้านใดบ้าง และเราจะทำเดือนหน้าให้ดีขึ้นในด้านไหน อย่างไรบ้าง
11.) Note เป็นส่วนพิเศษอยู่ท้ายเล่ม สำหรับจดบันทึกทั่วไป หัวกระดาษมีช่องให้ระบุว่าหน้านั้น ๆ บันทึกเรื่องอะไร วันที่เท่าไหร่ อย่างชัดเจน หรือจะใช้ลิสต์สิ่งต่าง ๆ ตามความสนใจก็ได้ เช่น โน้ตหน้านึงใช้ลิสต์รายชื่อหนังสือที่อยากอ่านให้จบในปีนี้ เป็นต้น
12.) Yearly Review สำหรับทบทวนตอนสิ้นปีว่า ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา เราประสบความสำเร็จเรื่องใดบ้าง ได้เรียนรู้หรือพัฒนาตัวเองด้านใดบ้าง และเราจะทำปีต่อไปของคุณนั้นดีขึ้นในด้านไหน อย่างไรบ้าง
***สั่งซื้อสมุด Simple Planner ได้ที่ http://www.kwanmanie.com/category/planner/ ค่ะ
95 comments