กระเป๋าหนัง exotic นอกจากจะมีความสวยหรูและโดดเด่นแล้ว ยังมีความทนทานและใช้งานได้ยาวนานกว่าเมื่อเทียบกับกระเป๋าหนังประเภทอื่น ๆ เพียงแต่คนส่วนใหญ่อาจมีภาพจำว่ากระเป๋าหนัง exotic มีราคาสูงและดูสูงวัย แต่บล็อกนี้ขวัญจะมาแนะนำให้รู้จักกับกระเป๋าหนัง exotic แบรนด์ S’uvimol ซึ่งเป็นแบรนด์ของคนไทยที่ไปไกลระดับโลก
รับรองว่า กระเป๋าหนัง exotic ของแบรนด์ S’uvimol จะทำให้เราทุกคนเปิดใจมองกระเป๋า exotic กันใหม่ และยิ่งได้ทราบราคาด้วยแล้ว จะตกใจเลยว่า ราคาเค้าไม่ได้สูงเกินเอื้อมอย่างที่หลายคนเคยคาดคิดแต่อย่างใด
จุดเด่นอย่างแรกของแบรนด์นี้คือ กระเป๋าหนัง Exotic ที่มีความสวยและคุณภาพดีมาก ปัจจุบันเค้ามีจำหน่ายด้วยกัน 4 ประเภท ได้แก่ หนังจระเข้ หนังนกกระเทศ หนังลิซซาร์ด และหนังงู ตามลำดับราคาสูงมาต่ำ (ด้านในของทุกใบซับด้วยหนังวัวนุ่ม ๆ) โดยกระเป๋าหนัง exotic แต่ละหนังก็มีความโดดเด่นและเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกัน ถ้าจะลงทุนซื้อกระเป๋าหนัง exotic ใบแรก เราจะเลือกหนังไหนดี… มาดูกันค่ะ…
กระเป๋าหนังจระเข้ (Crocodile)
- ไฮไลท์ของไฮไลท์คือหนังจระเข้ แต่ไม่ใช่เพียงเพราะว่าหนังจระเข้เป็นหนังที่ราคาสูงที่สุด หากแต่คุณแพร พัชรพิมล ยังประภากร ผู้ก่อตั้งแบรนด์ S’uvimol เค้าเป็นเจ้าของฟาร์มจระเข้ ที่ส่งออกหนังจระเข้ให้กับ Hermes, LV, Gucci ฯลฯ ด้วย ดังนั้น ถ้าจะพูดว่า ซื้อกระเป๋าหนังจระเข้ของ S’uvimol เท่ากับได้ใช้กระเป๋าหนังเกรดเดียวกับแบรนด์แฟชั่น hi-end ระดับโลก ก็ไม่เว่อร์เกินไปค่ะ
- โดยจระเข้ของที่นี่เค้าเลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม และเลี้ยงแบบซิงเกิ้ลพอร์ต ซึ่งหมายความว่า เลี้ยงหนึ่งตัวต่อหนึ่งบ่อ เพราะถ้าเลี้ยงรวมกันหลายตัว จระเข้อาจกัดกัน และทำให้หนังเป็นรอยได้นั่นเอง
- สาว ๆ บางคนอาจมีภาพจำว่า ถือกระเป๋าหนังจระเข้แล้วจะดูมีอายุ แต่เอาจริงนะ อยากให้เปิดใจ ชีวิตนี้ควรมีสักใบ ถ้าเราเลือกขนาด ดีไซน์ และสีดี ๆ มันไม่มีปัญหาเรื่องแก่เลยแน่นอน อย่างล่าสุดที่ Chanel ออกกระเป๋าสไตล์ Gabrielle รุ่นหนังวัวปั๊มลายหนังจระเข้ออกมา คนแห่ไปซื้อกันถล่มทลายจนขาดตลาดและราคาขายต่อแพงลิวลิ่ว
- ที่สำคัญหนังจระเข้เป็นหนังที่มีความทนทาน ใบนึงใช้ได้นานเป็นสิบ ๆ ปี ส่งให้ลูกให้หลานใช้ต่อก็ยังได้ ทั้งตัวหนังเอง และสีที่อยู่บนตัวหนังเองก็ด้วย มันจะซีดหรือเฝดยากกว่าสีที่ฟอกบนหนังประเภทอื่น ๆ ความรู้สึกตอนขวัญใช้งาน ขวัญก็รู้สึกว่า เค้าไม่ต้องระมัดระวังอะไรเยอะดี รู้สึกว่าเค้าแข็งแรง และก็ให้ฟีลลิ่งว่าฉันสวย ฉันแพง ฉันเป็นนางพญาด้วยค่ะ
- และถึงแม้ราคาหนังจระเข้จะสูงที่สุดอย่างไร แต่กระเป๋าหนังจระเข้ของ S’uvimol ก็ไม่ได้สูงเว่อร์เป็นล้าน ๆ แบบ Hermes นะคะ เท่าที่ขวัญทราบมา กระเป๋าหนังจระเข้ของ S’uvimol อยู่ที่ประมาณ 65,000 – 330,000 บาทเท่านั้น โดยหนังจระเข้ส่วนท้องจะราคาสูงกว่าส่วนกระดูก และฟินนิชชิ่งแบบ glossy จะมีราคาสูงกว่าแบบ matte ค่ะ
- สำหรับใบหนังจระเข้ที่ขวัญซื้อมาใบนี้ ขวัญซื้อมาตอนที่ทางแบรนด์จัด Mid-Year Sale ตอนนั้นลดตั้ง 30-40% แล้วเวลาเค้าลดราคาแบบเป็น % เยอะ ๆ แน่นอนว่า เราก็ต้องเลือกใบที่ปกติราคาสูง ๆ ไว้ก่อนใช่ไหมคะ เพื่อความคุ้ม ขวัญก็ได้ Mini Sweet Box หนังจระเข้ สีเขียวโอลีฟใบนี้มา ในราคาเพียง 42,xxx บาท จากปกติประมาณ 70,xxx บาท
====================
หนังนกกระจอกเทศ (Ostrich)
- หนังที่ราคาสูงรองลงมาจากหนังจระเข้ ก็คือหนังนกกระจอกเทศ
- จุดเด่นของหนังนกกระจอกเทศคือลาย Polka dot ซึ่งเป็นลายตามธรรมชาติบนผิวหนังของนกกระจอกเทศหลังถูกดึงขนออกไปแล้วนั่นเอง
- ทางแบรนด์ S’uvimol นำเข้าหนังมาจากฟาร์มนกกระจอกเทศอันดับ 1 จากแอฟริกาใต้ และเลือกเฉพาะหนังเกรด A ซึ่งให้ลายจุด ๆ ถี่สม่ำเสมอกัน และนำไปส่งฟอกต่อที่โรงงานชั้นนำในประเทศญี่ปุ่นอีกที
- แรก ๆ ขวัญก็ยังไม่คุ้นเคยกับลายตะปุ่มตะปั่มอะไรแบบนี้เหมือนกัน จึงลองซื้อมาใช้แค่ใบเล็ก ๆ แบบนี้ก่อน คือรุ่น Baby Mail to Me ราคาประมาณหมื่นสอง
- แต่ตอนนี้ ต้องบอกเลยว่า ยิ่งพอได้ใช้มาสักพัก ก็ยิ่งเลิฟหนังของเค้ามาก ๆ จนตอนนี้ขวัญก็เริ่มอยากมีหนังนกกระจอกเทศเป็นใบใหญ่ไว้สักใบแล้วเหมือนกัน เพราะหนังมีความหนา นุ่ม ยืดหยุ่น ยิ่งใช้ไปยิ่งนุ่มขึ้น เงาขึ้น สวยขึ้น ฟีลลิ่งตอนใช้ไม่ต่างจากกระเป๋าหนังวัวที่เราคุ้นเคยมากนัก แต่หนังนกกระจอกเทศมีความทนกว่า ดูแพงกว่า และก็มีความทนน้ำทนฝนสูงกว่าหนังตัวอื่น ๆ
================================
หนังตะกวด (Lizard)
- หนังที่ราคารองลงมา คือหนัง lizard หนังเค้าจะคล้าย ๆ หนังจระเข้ แต่มี texture ต่างกันเล็กน้อย หนังเงาสวยมาก และขนาดของลายจะเล็กถี่กว่าหนังจระเข้ มันก็จะให้ฟีลหรูหรา ดูแพง ดูโก้ และก็ดูวัยรุ่นลงมาหน่อย
- แต่หนัง lizard จะตรงข้ามกับหนังนกกระจอกเทศในเรื่องที่ว่า หนัง lizard มีความเซนซิทีฟต่อน้ำมาก ถ้าโดนน้ำ อาจทำให้หนังเป็นด่าง ๆ ดวง ๆ ได้
- เพราะเหตุฉะนี้ ขวัญจึงเลือกซื้อหนัง lizard เป็นใบจิ๋ว ๆ จำพวก small leather goods อย่างรุ่น New York Wallet เพราะจะได้มีความเสี่ยงในการเจอน้ำน้อยกว่าการเป็นกระเป๋าสะพาย และลายของหนังก็ให้ฟีลโก้หรูด้วย มันทำให้กระเป๋าชิ้นเล็ก ๆ ดูสวยโดดเด่นสะดุดตาโดยไม่ต้องพยายาม
- แล้วโดยทั่วไป หนัง lizard เป็นหนังที่หายาก และเป็นสัตว์ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ก็จะเหมาะเอามาทำ accessories หรือถ้าทำกระเป๋าสะพายก็ต้องเป็นขนาดมินิ ๆ
- และอีกอย่างหนึ่งคือ หนังเค้ามีความทนต่อรอยขีดข่วน เอาเล็บขูด ก็ไม่เป็นอะไร ดังนั้น เอาไว้เป็นกระเป๋าใส่การ์ดใส่เงินแบบนี้ สบายใจขวัญที่สุด
- สำหรับราคาของ New York Wallet หนัง lizard ใบนี้ อยู่ที่ประมาณ 1x,xxx บาท แต่พอดีขวัญซื้อมาตอนเค้าจัดโปรฯ ลด 50% จึงเหลือแค่ประมาณ 5,xxx บาท เท่านั้นค่ะ
==============
หนังงู (Python)
- อหนังงู เป็นหนัง exotic ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ขนาดขวัญคนเดียวก็มีตั้ง 3-4 ใบแล้ว ทั้งนี้เพราะหนังงูเป็นหนัง exotic ที่ราคาย่อมเยาที่สุด เบาทั้งราคา เบาทั้งตัวหนัง อีกทั้ง texture ของเกล็ดงู ก็ดูมีดีเทลเก๋ ๆ และมีความวัยรุ่น ดูทันสมัย
- สังเกตได้ว่า กระเป๋าหลาย ๆ แบรนด์ จนถึงแบรนด์หนังพียูหลายแบรนด์ที่ขายในไอจีหรืมัลติแบรนด์สโตร์ต่าง ๆ ก็จะมีดีเทลปั๊มลายให้คล้ายเกล็ดงู ซึ่งทำให้กระเป๋าดูมีอะไรและดูมีราคามากขึ้น
- แต่ของแบรนด์ S’uvimol คือเป็นหนังงูแท้ ๆ เลย ก็จะมีความทนกว่า ดู luxury กว่า และใช้ไปนาน ๆ ก็ไม่เหลืองด้ว โดยหนังงูที่แบรนด์ S’uvimol เลือกใช้จะไม่มีพวกหนังงูตัวเล็ก ๆ หรืองูน้ำเลย มีแต่หนังงูใหญ่ หรือ python อย่างงูเหลือมกับงูหลาม โดยหนังงูเหลือมจะลายเป็นริ้ว ๆ ส่วนงูหลามจะลายเป็นช่อง ๆ ซึ่งก็ต้องไปเลือกเอาตามความชอบกันอีกที
- นอกจากงูเหลือมงูหลามแล้ว หนังงูของ S’uvimol ก็จะมีให้เลือกแบบลายหลังกับลายท้องด้วย โดยลายหลังจะเป็นเกล็ดเล็ก ๆ เกือบเสมอกันตลอดผืน ส่วนลาย belly เนี่ย ตรงเซ็นเตอร์มันจะเกล็ดใหญ่ ๆ ซึ่งก็แล้วแต่ความชอบอีกเช่นกัน
- ราคาก็อย่างที่บอกก็คือ หนังงูจะราคาเข้าถึงง่ายที่สุด เช่น ใบรุ่น Toffee (Regular) หนังงู ราคาอยู่ที่ประมาณ 40,xxx บาท (แต่ขวัญซื้อตอนโปรฯ 9 เดือน 9 ที่ผ่านมา ก็ได้ลดไปเป็นหมื่น)
- ส่วนอีกสองใบที่ขวัญมีเป็นหนังงูในครอบครอง เป็นรุ่นยอดนิยมที่สุดและเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ S’uvimol เลย นั่นก็คือรุ่น Square F ขวัญก็จัดมาสองขนาดเลย ได้แก่ ไซส์ Mini ราคาประมาณ 32,900 บาท (แต่ซื้อมาตอนโปรฯ ลด 20%) กับ ไซส์ Regular ราคาประมาณ 38,xxx บาท (ใบนี้ขวัญไม่ได้ซื้อ ทางแบรนด์เค้ามอบให้ขวัญมา พร้อมกับผ้า Twilly และ Charm ไข่จระเข้ทอง)
================================
หากคุณกำลังเลือกลงทุนกับกระเป๋าหนัง exotic ใบแรกในชีวิต ขวัญก็แนะนำแบรนด์ S’uvimol แบรนด์ของคนไทยเรานี้เองนี่แหละค่ะ เพราะมีคุณภาพดี สวยงาม มีสีให้เลือกเยอะ และที่สำคัญราคาเข้าถึงได้ ส่วนใครจะเลือกหนังไหนมาประเดิม ก็เลือกเอาได้เลยตามความชอบและการใช้งานของแต่ละคน เพราะหนังแต่ละแบบต่างก็มีความสวยในแบบฉบับของมันและมีจุดเด่นจุดด้อยเฉพาะตัวแตกต่างกันไป
สรุปคร่าว ๆ คือ
- หากอยากได้หนังทน สีสดสวยนาน ๆ และหรูหราสมฐานะ ก็จัดกระเป๋าหนังจระเข้ได้เลย คุ้มแน่นอน
- หนังนกกระจอกเทศ มีฟีลคล้ายหนังวัวอยู่ แต่มีลาย polka dot ข้อดีคือหนังนุ่มสวยและทนต่อน้ำ
- หนังลิซซาร์ด มีความโก้หรูดูแพง เงาสวย ทนต่อรอยขีดข่วน แต่เซนซิทีฟต่อน้ำ
- สุดท้าย หนังงู มีความเบาทั้งราคาและน้ำหนักของกระเป๋า อีกทั้งยังดูวัยรุ่นขึ้นมาหน่อย ใช้ง่าย
ทางที่ดีที่สุด ถ้าเป็นไปได้ อยากให้ลองไปเลือก ไปถือ หรือสัมผัสกระเป๋าหนังแต่ละแบบด้วยตัวเองดูก่อน โดยแบรนด์ S’uvimol ก็มีหลายสาขาตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำค่ะ
38 comments
Comments are closed.