Teen Spirit เป็นผลงานการกำกับเรื่องแรกของ Max Minghella นักแสดงที่ผันตัวมากำกับหนัง ตามรอย Anthony Minghella พ่อของเขา ซึ่งเป็นผู้กำกับเจ้าของรางวัลออสการ์ จากเรื่อง The English Patient
สำหรับผลงานกำกับเรื่องแรก กับ budget ที่ไม่ได้มากมาย เรามองว่า Max Minghella เป็นลูกไม้ที่หล่นไม่ไกลต้น แต่ก็ยังต้องให้เวลากันอีกนิดนึง สำหรับเรื่องนี้ เขาเริ่มต้นเส้นทางอาชีพการกำกับได้ไม่ขี้เหร่ เขาทำหนังที่พล็อตเหมือนจะไม่มีอะไร ให้มันมีอะไร… เขาทำหนังพล็อตแมส ๆ ให้ออกมามีกลิ่นอายความอินดี้… เขาทำหนังที่มีพล็อตบ้าน ๆ ตามสูตรสำเร็จ สไตล์ A Cinderella story แต่พยายามมีสไตล์การเล่าที่ไม่ตามสูตรมากเกินไป และเพลงในหนังมันมีความคูล ทั้งนี้ หนังสร้างโดยทีมสร้าง La La Land ด้วยแหละ ดังนั้นเพลงเพราะก็ไม่แปลก
ซินเดอเรลล่าเสียงใสของเรื่อง ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นแฟนสาวของเขาเอง… Elle Fanning (เจ้าหญิงนิทราจาก Maleficent) ซึ่ง Elle Fanning เนี่ย เล่นหนังมาตั้งแต่แบเบาะ จนตอนนี้ อ่ายุ 21 ปี มีผลงานภาพยนตร์กว่า 60 เรื่อง ฝีมือการแสดงของเธอเป็นที่ยอมรับอยู่แล้วว่าดี จัดจ้านเกินอายุ เธอมีของและนิสัยดี เธอจึงเป็นขวัญใจของคนทำหนังทุกแนว ไม่ว่าจะหนังแมสหรือหนังนอกกระแส (สำหรับเรื่อง Teen Spirit นี้ อยู่กึ่งกลางระหว่างหนังแมสกับหนังอินดี้นะสำหรับเรา) ประกอบด้วยหน้าตาที่สวยน่ารัก เธอจึงเป็นขวัญใจของคนดูหลายคนทั่วโลกทุกเพศทุกวัย
โดยในหนังเรื่อง Teen Spirit นี้ Elle Fanning ได้โชว์ talent ของเธออย่างเต็มที่ นอกจากจะแบกหนังไว้แทบทั้งเรื่องแล้ว เธอยังต้องร้องและเต้นไปด้วยกับการแสดงเรื่องนี้ เพราะเธอรับบทเป็น Violet เด็กสาวบ้านนาวัย 17 ปี อาศัยอยู่กับแม่ซึ่งเป็นชาวโปแลนด์ (Agnieszka Grochowska จาก Child 44) ทั้งสองหาเช้ากินค่ำ รับจ้างเป็นพนักงานเสิร์ฟ แต่ Violet ชอบร้องเพลงและมีความฝันอยากเป็นนักร้อง เธอจึงแอบแม่ไปร้องเพลงตามร้านอาหารและสมัครประกวดร้องเพลงเวที Teen Spirit ด้วย โดยมี Vlad (Zlatko Buric จาก 2012) อดีตนักร้องโอเปร่าชื่อดังเป็นทั้งครูช่วยสอนร้องเพลงและเป็นผู้จัดการส่วนตัว
แน่นอนว่า Violet มีพรสวรรค์ ตอนแรกเริ่ม อุปสรรคของเธอคือแม่ที่ไม่อยากให้ลูกไปร้องเพลงเพราะกลัวเสียเวลาทำมาหากินและกลัวลูกผิดหวังกับผลการแข่งขัน แต่พอไปได้ไกลในรอบลึก ๆ แล้ว แม่ไม่ใช่ปัญหาแล้ว แต่มีประเด็นเรื่องชื่อเสียง และก็ conflict คือ เธอต้องเลือก Vlad ผู้ปั้นเธอมาจากโคลนตม กับ Jules (Rebecca Hall จาก The Prestige) โปรดิวเซอร์ชื่อดังที่สามารถพาเธอไปยังจุดสูงสุดของอาชีพที่เธอฝัน
ดูแล้วจะเห็นว่า บทของ Violet มีความซับซ้อน ปัญหาเยอะ ตามวัยรุ่นวัยทีน ไม่ว่าจะเรื่องเพื่อน เรื่องความรัก เรื่องเงิน เรื่องครอบครัว และเรื่องอนาคต ทุกสิ่งทุกอย่างมันล้วนเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต ที่ไม่สามารถตัดทิ้งจากชีวิตได้แม้ว่าบางทีมันจะเป็นปัญหาหรืออุปสรรคในการใช้ชีวิตด้านอื่นหรือในการไขว่คว้าหาความฝัน แต่สุดท้ายเราก็ต้องจัดการมันให้ลงตัวให้ได้ จัดลำดับความสำคัญ และกล้าที่จะออกจาก comfort zone ซึ่งมันก็จัดเป็นหนังที่ inspirational เรื่องหนึ่งนั่นแหละ
สำหรับความรู้สึกหลังชมหนังเรื่องนี้ ก่อนอื่นต้องขอชมน้อง Elle Fanning อย่างแรกเลย ตอนแรกก็คิดว่าลิปซิงค์หรือใช้เทคนิคอะไรหรือเปล่า แต่เห็นเค้าว่าเธอร้องและเต้นเองจริง ๆ ซึ่งมันก็ทำให้เราทึ่งนะ ปกติก็ชื่นชมและชอบน้องเค้าอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ ทำให้เราเห็นว่า เธอมีดีมากกว่ารูปร่างหน้าตาและการแสดง หากแต่เธอยังร้องและเต้นได้ในระดับที่โอเคอีกด้วย
นอกเหนือจากนางเอก เราคิดว่า สกอร์ ซาวนด์แทร็ก และภาพ มีความจัดจ้านและน่าสนใจ ถือเป็นจุดเด่นของหนัง โดยเฉพาะซีนที่ร้องเพลงนี่ให้ฟีลลิ่งเหมือนดู MV เพลิน ๆ ทำให้ปัญหาเรื่องพล็อตมันไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า ปัญหาของพล็อตมันจะหายไปหรือคนดูมองไม่เห็นนะ มันยังชัดเจนอยู่ เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างนางเอกกับคนรอบข้าง โดยเฉพาะผู้จัดการของเธอ ที่ยังไม่ชัดขนาดจะมาเป็นปมสำคัญในองก์สุดท้ายขนาดนั้น ฯลฯ
โดยสรุป Teen Spirit มีจุดขายที่ Elle Fanning ซึ่ง damage รุนแรงและแข็งแกร่งมาก ประกอบกับดนตรี เพลง สกอร์ ที่ทำมาได้ค่อนข้างดี ทำให้หนังยังพอมีความสนุก แต่ก็มีความแปลกใหม่สำหรับหนังแนวค้นฟ้าคว้าดาว ที่คนดูอาจจะงง ๆ กับสไตล์การเล่าของหนังไปบ้าง สุดท้ายสิ่งที่หนังต้องการจะเล่ามันเล่าไปไม่สุดสักทาง
ถ้าให้พูดสั้น ๆ คือ Teen Spirit เป็นหนังพล็อตแมสที่พยายามไม่แมสและพยายามมีสไตล์ของตนเองแต่ยังหาเวย์ไม่เจอ เหมือนเป็นหนังให้ Elle Fanning ได้ปล่อยของ แต่ถ้าพิจารณาจากทุนสร้างและชั่วโมงบินของผู้กำกับ ก็ต้องบอกว่า Max Minghella ไม่ได้สอบตก และเขายังสามารถไปได้อีก
คะแนนตามความชอบส่วนตัว 7/10
42 comments
Comments are closed.