“Leave us alone!”
ดูเทรลเลอร์หนัง The Strangers: Prey at Night ของผู้กำกับ Johannes Roberts (จากหนังฉลาม 47 Metres Down) แล้ว อาจนึกถึงหนัง The Purge แต่จริง ๆ แล้วเรื่องนี้เป็นภาคต่อของ The Strangers (2008) ซึ่งสร้างจากเหตุการณ์จริงของคดี Keddie Cabin Murders ในแคลิฟอร์เนียเมื่อปี 1981 (ไม่จำเป็นต้องดูภาคแรกก็ดูรู้เรื่อง เพราะเหตุการณ์เริ่มใหม่หมด แค่ใช้ฆาตกรชุดเดิม)
เวลาล่วงเลยมาสิบปี คนแปลกหน้าใส่หน้ากากหน้าแปลก 3 คนกลับมาอาละวาดอีกครั้ง โดยครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายคือครอบครัวของ Cindy (Christina Hendricks จาก The Neon Demon), Mike (Martin Henderson จาก Everest) และลูกทั้งสอง Luke (Lewis Pullman จาก Battle of the Sexes) กับ Kinsey (Bailee Madison จาก Brothers) ที่มาพักที่บ้านพักตากอากาศ Gatlin Lake ในช่วง low season
The Strangers: Prey at Night ไม่ใช่หนังที่ทันสมัยอะไรสำหรับ genre นี้เหมือนเรื่อง บ้านตุ๊กตาดุ ที่เพิ่งดูไป แต่ค่อนข้างมีกลิ่นอายของหนังยุคเก่า ๆ เสียมากกว่า มีฉากตุ้งแช่หรือ jump scare อยู่บ้าง แต่ไม่ฟุ่มเฟือย ฉากความรุนแรงก็จะมีเพลงโจ๊ะ ๆ เปิดประกอบตัดกับบรรยากาศความน่ากลัวนั้น โดยรวมคิดว่าน่าจะถูกใจคอหนังคัลท์ไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะองก์สุดท้ายที่เหยื่อเริ่มลุกขึ้นสู้ (สักที)
บรรยากาศของโลเกชั่นค่อนข้างมืด เปลี่ยว และวังเวง เพราะเหตุเกิดในยามวิกาล ในเขตบ้านพักตากอากาศที่ไม่มีแขกเข้าพัก ณ เวลานั้นเลย ถ้าเราเป็นครอบครัวนี้ ก็คงไม่เข้าพักที่นี่แล้วแต่แรกเสียด้วยซ้ำ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ผิดพลาดอย่างเดียวของครอบครัวนี้
ตลอดทั้งคืน เราจะพบว่าสี่คนพ่อแม่ลูกทำข้อผิดพลาดมากมาย หรือพูดตรง ๆ จะเรียกว่า “ทำอะไรโง่ ๆ” ก็ได้ เพราะมันยังมีอีกหลายโมเมนต์ที่เรารู้สึกว่า ทำไมทำอย่างนี้ / ทำไมไม่ทำอย่างนี้ (เช่น จะพูด hello กับเสียงที่มองไม่เห็นเพื่อ???) จนบางทีก็รู้สึกลำไยมากกว่ากลัวหรือรู้สึกอยากจะเอาใจช่วย แต่หลายอันก็ยังเป็นความโง่ที่เรียลดี (ซึ่งนั่นเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับเราในฐานะคนดูก็ได้ที่จะได้รู้สึกว่าตัวเองฉลาดที่สุดในสถานการณ์ แต่เอาเข้าจริง เราอาจจะทำอะไรที่โง่ ๆ กว่านี้ก็เป็นได้)
พล็อตไม่ค่อยมีอะไรมาก เหมือนทำมาเพื่อเป็นหนังไล่ฆ่าเพียว ๆ ทั้งเรื่องนี้ส่วนใหญ่มีแต่การ ไล่ล่า / ตามหา / หนีเอาตัวรอด / และต่อสู้ป้องกันตัว และฉากที่พอให้น่าจดจำจะเป็นฉากสระว่ายน้ำที่ถ่ายออกมาได้น่าสนใจ พัฒนาการของตัวละครก็ไม่มีอะไรเยอะไปกว่า “รักกันมากขึ้น”
หนังไม่ได้บอก backstory ของทั้งฝ่ายเหยื่อและฝ่ายฆาตกรโรคจิตอะไรมากมาย โดยเฉพาะเหตุผลที่ว่าโจรสามคนนี้มาไล่ฆ่าครอบครัวนี้ทำไมนั้นมีเพียงแค่ 2 พยางค์เท่านั้น บางทีนั่นอาจจะเป็นการตอกย้ำว่า ในโลกความเป็นจริง บางครั้งความรุนแรงมันก็ไม่มีเหตุมีผลหรือที่มาที่ไปอะไรซับซ้อน และอาจจะเกิดขึ้นกับใคร ที่ไหน หรือเมื่อไรก็ได้
ดั่งเช่นตอนแรกที่ Cindy ผู้เป็นแม่ไม่ยอมให้ Luke ลูกชายคนโตอยู่บ้านคนเดียวแต่ให้มาบ้านพักตากอากาศด้วยกัน เธออาจจะมีเหตุผลเรื่องความปลอดภัยของลูก แต่สุดท้ายเราได้เห็นแล้วว่า ไปกับพ่อแม่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีใครทำมาอันตรายได้ เพราะความรุนแรงมันเกิดขึ้นโดยไม่เลือกจริง ๆ
คะแนนตามความชอบส่วนตัว 6.5/10 เข้าฉาย 24 พ.ค. 2018 ในโรงภาพยนตร์
46 comments
Comments are closed.