รีวิว The Walk : ไต่ขอบฟ้าท้านรก

The Walk สร้างจากเรื่องจริงของ Philippe Petit ศิลปิน wire walker ชาวฝรั่งเศส ที่โด่งดังจากการก่อ “le coup” (the “artistic crime of the century”) โดยการเดินบนเชือกข้ามตึกแฝด World Trade Center เมื่อปี 1974

ก่อนหน้าที่ผู้กำกับออสการ์ Robert Zemeckis (จาก Back to the Future, Forrest Gump, Cast Away) จะมาสร้าง The Walk นั้น เรื่องราวของ Philippe Petit ได้เคยถูกเล่ามาก่อนแล้ว

ในปี 2003 มีหนังสือการ์ตูนเด็กเรื่อง The Man Who Walked Between the Towers ซึ่งถูกจัดเป็นหนังสือดีมีรางวัลซะด้วย และนอกจากนี้ ในปี 2008 ผู้กำกับ James Marsh (จาก The Theory of Everything) ก็ยังทำหนังสารคดีเกี่ยวกับ Philippe Petit ชื่อว่า Man on Wire ซึ่งต่อมาได้รับรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยมด้วย

เรื่องย่อ The Walk

Philippe Petit (Joseph Gordon-Levitt จาก (500) Days of Summer, Inception, The Dark Knight Rises ฯลฯ) มีเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ว่า จะไปเดินข้ามตึก 110 ชั้น (ซึ่ง ณ ตอนนั้น ถือเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก) ที่มหานคร New York City โดยเขาไปร่ำเรียนวิชาการกายกรรมเปียงยางและการผูกเงื่อนจากหัวหน้าคณะละครสัตว์ชื่อดัง Papa Rudy (Ben Kingsley จาก Shutter Island, Hugo ฯลฯ)

หลังการฝึกซ้อมและวางแผนอย่างแยบยล Philippe Petit พร้อมกับแฟนสาว Annie (Charlotte Le Bon จาก Yves Saint Laurent, The Hundred-Foot Journey), ช่างภาพคนสนิท Jean-Louis (Clément Sibony), และ Jeff (César Domboy) ครูสอนเลขผู้กลัวความสูง บินข้ามน้ำข้ามทะเลจากฝรั่งเศสไปอเมริกา เพื่อสานฝันอันสูงสุดของ Philippe Petit ให้สำเร็จ ในเช้าวันที่ 7 ส.ค. 1974 ก่อนที่ World Trade Center จะถูกสร้างเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์

รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ The Walk

ตามสไตล์หนังที่สร้างจากเรื่องจริงทั่วไป เรื่องราวในหนัง The Walk จะไม่ค่อยมีอะไรมาก เหมือน Philippe Petit มาเล่าเรื่องเหตุการณ์ le coup ของเขา ตั้งแต่จุดแรกเริ่มที่เกิดไอเดียจะไปไต่ตึกแฝด การเรียนรู้ฝึกฝน การวางแผน การหาลูกทีม การเตรียมตัว 1 วันสุดท้ายก่อนเริ่มภารกิจ จนถึงเช้าวันที่เขาเริ่มการแสดงไต่ฟ้าท้านรก

ด้วยฝีมือการกำกับของผู้กำกับระดับออสการ์ Robert Zemeckis บวกกับฝีไม้ลายมือและบุคลิกของพระเอกหนุ่ม Joseph Gordon-Levitt ทำให้หนังเล่าเรื่องสนุก ดำเนินเรื่องฉับไว น่าติดตาม ไม่น่าเบื่อเลย แถมยังมีมุกตลกให้ยิ้มขำกันตลอดเรื่อง

การแสดงของ Joseph Gordon-Levitt ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังอีกเช่นเคย เป็นที่น่าชื่นชม เขาโปรเฟสชั่นนัลเสมอต้นเสมอปลาย และพยุงหนังทั้งเรื่องได้จนถึงฝั่งฝัน เราชอบที่เขาเป็นทั้งคนกวนตีนและขึงขังได้ในเวลาเดียวกันอย่างบาลานซ์ ถึงแม้คอนแทคเลนส์สีฟ้าและภาษาอังกฤษสำเนียงฝรั่งเศสของเขาอาจจะแปร่งๆ ขัดลูกหูลูกตาเราอยู่บ้าง แต่สุดท้ายแล้ว สำหรับเรา เขาก็เป็น Philippe Petit ที่น่าทึ่งและมีเสน่ห์มากๆ อยู่ดี

อย่างไรก็ตาม ตัวบทเขาจะเรื่อยๆ ทั่วไป ไม่มีดราม่า ไม่มี conflict บางประเด็นสำคัญที่น่าจะเอามาดัดแปลงหรือเล่นได้ก็ไม่เอามาขยี้ให้พีคๆ เราว่าเรื่องโดยรวมมันออกมาสวยงามเกินไป…สวยจนเรารู้สึกว่า ทำไมทุกอย่างที่เขาทำมันดูง่ายดายและเหมาะเจาะไปเสียหมดตั้งแต่ต้นจนถึงบทสรุปของหนัง (แต่ทีทำไมความฝันของเราล่ะย้ากยาก…)

แต่เท่าที่เข้าใจคือ หนังก็พยายามเน้นให้เราเชื่อมั่นในตัวเองและเดินตามฝันอย่างจริงจังแบบ Philippe Petit กล่าวคือ ความฝันของเราอาจจะสูง อาจจะยาก อาจจะดูเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าเราพยายามมากพอและไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มันย่อมเป็นไปได้เสมอ ขอแค่เราเริ่มต้นวางแผน เชื่อมั่นศรัทธา และหาซัพพอร์ตที่ดี

เพราะเรื่องใหญ่ๆ บางเรื่องเราทำเองคนเดียวไม่ได้ เพื่อนหรือทีมเวิร์คสำคัญมาก อย่าง Philippe Petit ที่ไม่ใช่แค่มีแฟนสาวเป็นแรงผลักดันและกำลังใจ แต่เขายังมีเพื่อนๆ ที่เชื่อมั่นในตัวเขา เชื่อว่าเขาทำได้ และคอยช่วยเหลือสุดกำลัง (นี่ยอมใจคุณแฟนในเรื่องมาก คือถ้าเราเป็นแฟนของพระเอก เราคงงี่เง่าและไม่ยอมให้คนรักไปเสี่ยงตายอะไรแบบนี้อะ…ถึงแม้จะเข้าใจว่าเป็นความฝันของเขาก็เถอะ)

จะเห็นได้ว่า เรื่องราวฟังดูไม่มีอะไรหวือหวา พล็อตของหนังไม่มีอะไรแปลกใหม่ ไม่ได้สอดแทรกแง่คิดอะไรหนักๆ ให้คนดูตกผลึกต่อหลังหนังจบ The Walk จึงไม่ใช่หนังดีเด่อะไรมากมาย แต่จัดเป็นหนังที่ดูสนุก คุ้มค่า และเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์การดูหนังที่ต้องดู โดยเฉพาะในแบบ IMAX 3D

เราเคยคิดว่า IMAX 3D มันเกินจำเป็น ดูแค่โรงธรรมดาก็ได้ แต่ตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่า หนังบางเรื่องเขาตั้งใจสร้างทุกซีนทุกช็อตมาเพื่อระบบสามมิติโดยเฉพาะจริงๆ อย่าง The Walk เนี่ย เราว่าต้องดูสามมิติเท่านั้น พูดตรงๆ เลยว่า ถ้าไม่ดูแบบจอสามมิติ หนังเรื่องนี้อาจจะดูไม่มีอะไรเลย ทุกอย่างจะดู plain ไปหมด (ตามที่กล่าวมาข้างต้น)

ดังนั้น จุดขายที่ดีงามที่สุด (และดีงามมากๆ) ของ The Walk คืองานภาพของเขา ภาพสวยมาก มุมกล้องเจ๋ง โดยเฉพาะฉากตอนพระเอกเดินเหินบนยอดตึก…เสียวมากกกกกกก… เสียวซี้ดหัวใจจะวาย ลุ้นจนแทบหยุดหายใจ น่ากลัวยิ่งกว่าดูหนังผี แถมซาวนด์ประกอบก็ยังส่งอีกต่างหาก ไม่มีอะไรจะพูดมาก ไม่รู้จะบรรยายยังไงให้เห็นภาพ แนะนำให้ทุกคนไปพิสูจน์เองในโรง IMAX 3D

โดยสรุป จุดแข็งของ The Walk คืองานภาพ การเล่าเรื่อง และการแสดง จุดอ่อนคือความไม่มีอะไรของเรื่องราว (เพราะเป็น based on a true story) แต่โดยรวมยังสนุกอยู่ เราชอบเลยทีเดียว คะแนนตามความชอบส่วนตัวให้ 8.5/10