“You look in their eyes, and you know exactly what is in their hearts.”
เราได้เรียนรู้เรื่องราวสมัยสงครามโลกและสัมผัสประสบการณ์อันเลวร้ายของเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิว (Holocaust) จากภาพยนตร์และสื่อต่าง ๆ มาหลายต่อหลายเรื่อง แต่ The Zookeeper’s Wife เป็นหนังที่จะเผยอีกหนึ่งเรื่องจริงกลางเพลิงสมรภูมิ…วีรกรรมแห่งประวัติศาสตร์…ที่หลายคนบนโลกยังไม่เคยรู้
The Zookeeper’s Wife เป็นเรื่องของสองสามีภรรยาชาวโปแลนด์ Antonina Zabinska (Jessica Chastain ผู้เข้าชิงออสการ์จาก The Help และ Zero Dark Thirty) และ Jan Zabinski (Johan Heldenbergh) เจ้าของสวนสัตว์วอร์ซอว์ (Warsaw Zoo) ที่ใช้สวนสัตว์ของตนเป็นที่หลบภัยให้กับชาวยิวกว่า 300 ชีวิตให้รอดพ้นจากการเป็นเหยื่อสงครามในช่วง 1940s โดย Antonina ต้องคอยรับมือกับ Lutz Heck (Daniel Brühl ผู้เข้าชิงลูกโลกทองคำจาก Rush) นักสัตววิทยาประจำกองทัพนาซีด้วย
เนื่องจาก The Zookeeper’s Wife เน้นเล่าจากมุมมองของ Antonina ภรรยาผู้อยู่ในบ้าน (หรือในสวนสัตว์) เสียส่วนใหญ่ เราจึงอาจไม่ได้ซึมซับความโหดร้ายของสงครามโลกจากหนังเรื่องนี้สักเท่าไหร่ แต่จะมีโมเมนต์ความกล้ำกลืนฝืนทนของ Antonina ตอนที่ต้องอยู่กับ Lutz อยู่หลายครั้ง ซีนที่จะได้สัมผัสความทุกข์ยากลำบากของชาวยิวส่วนใหญ่เป็นช่วงที่หนังเล่าถึงตอนที่ Jan ผู้เป็นสามี ออกไปทำธุระข้างนอกเท่านั้น
ครอบครัว Zabinska ซึ่งเป็นชาวโปแลนด์ เป็นตัวแทนของผู้ที่ยอมเอาชีวิตของตัวเองและครอบครัวไปเสี่ยงเพื่อทำสิ่งที่ถูกต้อง นั่นคือการปกป้องชาวยิวผู้เป็นเพื่อนร่วมชาติ ดูแล้วเรารู้สึกชื่นชมในความกล้าหาญของพวกเขามาก หลายสิ่งที่เขาทำมันคือเหลือเชื่อจริง ๆ ตอนนั้นพวกเขามีสิทธิที่จะไม่เอาตัวเองไปเกี่ยวข้องกับชาวยิว แต่พวกเขาก็เลือกที่จะยึดมั่นทำในสิ่งที่เขาเชื่อว่าถูกต้อง ถึงแม้มันอาจจะส่งผลกระทบกับตัวเขาเองก็ตาม
ซีนที่เราชอบในหนังเป็นช่วงก่อนที่พวกทหารเยอรมันจะมาลงพื้นที่ที่นี่ เราได้ดูชีวิตประจำวันอันแสนสงบของครอบครัวผู้ดูแลสวนสัตว์ ลูกชายนอนกอดกับลูกสิงโตตัวน้อย คุณแม่ขี่จักรยานทักทายสัตว์น้อยใหญ่และผู้เข้าชมรอบบริเวณสวนสัตว์ แม้กระทั่งฉากที่เธอทำคลอดให้ช้างของเธอ ฯลฯ แต่แล้วความสุขสันต์ก็มาพลันอันตรธานหายไป เมื่อระเบิดถูกทิ้งลงมา สัตว์หลายตัวล้มตายจากแรงระเบิดมฤตยู
ฉากระเบิดและฉากที่เหล่าทหารกวาดยิงสัตว์ต่าง ๆ ในสวนสัตว์เป็นฉากที่สะเทือนใจคนรักสัตว์อย่างเราอย่างยิ่ง ซึ่งจริง ๆ เหมือนหนังเรื่องนี้เขามีความตั้งใจอยากให้คนดูสะเทือนใจกับฉากสัตว์ถูกฆ่ามากกว่าอยู่แล้ว เพราะเอาจริง ๆ ฉากคนยิวถูกฆ่าในหนังเรื่องนี้นั้นแทบไม่มีเลย มีแต่ฉากใช้แรงงานทั่วไปเสียมากกว่า
ทั้งนี้เพราะเขาอาจตั้งใจจะใช้สัตว์ผู้ไร้เดียงสาเป็นอุปมาอุปไมยแทนกับพวกชาวยิวที่ถูกสังเวยจริง ๆ จากเหตุการณ์ครั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่นาทีที่สัตว์กรีดร้องด้วยความหวาดกลัวเสียงระเบิด นาทีที่สัตว์วิ่งหนีตาย ฯลฯ มันทำให้เห็นว่าบางทีคนก็ไม่ต่างจากสัตว์เหล่านั้นเลย เพียงแต่จะเป็นผู้ล่าหรือผู้ถูกล่า ณ ตอนนั้น ก็เท่านั้น
The Zookeeper’s Wife อาจจะไม่ใช่หนังที่จะทำให้เราอินหรือเห็นภาพสงครามโลกครั้งนั้นมากเท่าไหร่ แต่ก็พาเราไปรู้จักกับอีกหนึ่งเรื่องจริงอันเหลือเชื่อและวีรสตรีที่เรายังไม่เคยรู้จัก มันอาจไม่ได้จัดเป็นหนังที่ดีเด่นอะไร นอกเสียแต่การแสดงของ Jessica Chastain ที่โดดเด่นตามมาตรฐานออสการ์ของเธอ แต่อย่างน้อยหนังก็ทำให้เรารู้สึกถึงความโหดร้ายของสงครามและเข้าถึงความรู้สึกของเหยื่อสงครามได้ประมาณหนึ่ง การที่มีหนังสงครามโลกลักษณะนี้ออกมาในช่วงนี้อาจเป็นช่วงที่เหมาะแล้ว เราจะได้เห็นว่าสงครามหรือการแบ่งแยกเผ่าพันธุ์มันไม่ก่อผลดีต่อใครเลย
The Zookeeper’s Wife คะแนนตามความชอบส่วนตัว 7/10 เข้าฉาย 4 พ.ค. 2017 ในโรงภาพยนตร์
76 comments
Comments are closed.