KWANMANIE
  • Home
  • Courses
    • All Courses
    • Essay Course for Admissions
    • Private Essay Course
    • SOP & Essay Editing Service
  • Films
    • Movie Reviews
    • Series
  • Books
    • Nonfiction
      • Self Improvement Books
      • Relationship Books
    • Fiction
  • Lifestyle & Perspective
    • Fashion & Beauty
    • Food & Restaurant
    • Plants
    • Productivity
    • Thoughts
    • Travel
    • Misc.
  • Study
    • How to Write a Statement of Purpose (SOP)
    • English Writing
    • General
  • About Me
    • Where to Find Me
Follow
  • Facebook
  • Twitter
  • Instagram
  • Pinterest
  • YouTube
Social Links
Instagram 5K Follow
Twitter 11K Follow
Facebook 10K Like
YouTube 7K Subscribe
TikTok
KWANMANIE
Follow
Follow
Like
Subscribe
KWANMANIE
  • Home
  • Courses
  • Films
    • Movie Reviews
    • Series
  • Books
    • Nonfiction
    • Fiction
  • Lifestyle & Perspective
    • Fashion & Beauty
    • Food & Restaurant
    • Plants
    • Productivity
    • Thoughts
    • Travel
    • Misc.
  • Study
  • About Me
    • Where to Find Me
  • Self Improvement Books
  • Relationship Books
  • Films
  • Movie Reviews

รีวิว Transformers 5: The Last Knight

  • June 22, 2017
  • kwanmanie
Total
0
Shares
0
0
0

สิบปีที่แล้ว เราได้รู้จักกับ Autobots, Decepticons, และ Sam Witwicky (Shia LaBeouf) เป็นครั้งแรก สำหรับเด็กคนนึงตอนนั้นเรารู้สึกว่านี่เป็นหนังที่สนุกล้ำและหุ่นยนต์เท่มาก ก็ติดตามดูภาคต่อ ๆ เรื่อยมา ถึงแม้จะพบว่ายิ่งดูก็ยิ่งเลอะเทอะ แต่ก็ทนดู แล้วแต่ละภาคนี่ความยาวเฉลี่ยสองชั่วโมงครึ่งอัพทั้งสิ้น รวมดูทั้งสี่ภาคแล้วก็เสียเวลาไปไม่น้อยกว่า 613 นาทีของชีวิต (ยังไม่นับเวลาที่ภาคใหม่จะเข้าแล้วเราต้องมีขุดภาคก่อน ๆ มาดูซ้ำนั่นอีก) ถ้ารวมกับ Transformers 5: The Last Knight ด้วยอีก ก็เท่ากับเราเสียเวลาดูหนังแฟรนไชส์นี้ไปกว่า 613 + 149 = 762 นาที (หรือประมาณ 12 ชั่วโมงเศษ ๆ)

เนื้อเรื่องของ Transformers 5: The Last Knight ก็ไม่มีอะไรเลย เหมือนวนลูปอยู่ที่เดิม รัฐบาลแบ่งแยกและตามล่าหุ่นยนต์เอเลี่ยน เหล่า Autobots กับ Decepticons ก็ไฟต์กันไม่จบไม่สิ้น ฝั่ง Autobots ก็จะมีไอ้หนุ่มหนึ่งคน ซึ่งภาคนี้ยังเป็น Mark Wahlberg คนเดิมจากภาคสี่อยู่ (แต่ภาคหน้า Wahlberg บอก ไม่เล่นแล้ว พอกันที) แล้วก็ต้องมีสาวหุ่นเอ็กซ์เซ็กซี่จือปากมาวิ่ง ๆ ๆ กับพระเอกหนึ่งนาง ซึ่งก็ได้แก่ Laura Haddock ซึ่งแทบจะพิมพ์เดียวกับ Megan Fox และนางเอกภาคก่อน ๆ เช่นเคย สเป็คของป๋า Michael Bay เขาเลย

นอกจากพล็อตหลักจะเหมือนรียูสมาแล้ว หนังยังมีพล็อตยิบย่อยเยอะไปหมด แล้วบางช่วงตัดต่องงมาก เล่าไม่ได้เรื่อง จัดการกับเส้นเรื่องและตัวละครอันยั๊วเยี๊ยะของตัวเองไม่ได้ อย่างที่คุณพี่เจไดยุทธบอก “ผู้ใหญ่ดูก็ไม่สนุก เด็กดูก็ไม่รู้เรื่อง” (เอาจริง อย่าว่าแต่เด็กเลย นี่โตแล้ว บางจุดยังตามไม่ทัน งง แต่ก็ปล่อยผ่าน)

เปิดเรื่องมาก็พาเราย้อนไปถึงยุค King Arthur หรืออัศวินโต๊ะกลม เล่าถึงพ่อมด Merlin (Stanley Tucci จาก The Devil Wears Prada และ The Hunger Games) ไปได้ดาบจากหุ่นยนต์เอเลี่ยนตัวหนึ่ง แล้วพอมาในยุคปัจจุบัน Quintessa (Gemma Chan จาก Fantastic Beasts) ก็อยากได้ดาบนั่น เลยสะกดจิตให้  Optimus Prime (Peter Cullen) ไปช่วงชิงมาจากโลกมนุษย์ และก็มี Megatron (Frank Welker) มาจองล้างจองผลาญเช่นเคย

ผู้พิทักษ์โลก-ผู้พิทักษ์ดาบ ก็หาใช่ใครอื่น ก็ต้อง Cade Yeager (Mark Wahlberg จาก The Fighter, Patriots Day, Deepwater Horizon) แต่เนื่องจากทีมเก่าจากภาคก่อนวงแตก ลูกสาวไปเรียนมหา’ลัย ส่วนว่าที่ลูกเขยก็ไปซิ่งที่ไหนแล้วก็ไม่รู้ (แต่ล่าสุดเราเห็นที่ Sing Street 555) ภาคนี้เลยต้องฟอร์มทีมใหม่

ภาคนี้ทีมพระเอกก็ได้สาวออกซ์ฟอร์ด Vivian Wembley (Laura Haddock จาก Guardians of the Galaxy) กับลุง Sir Edmund Burton (Anthony Hopkins จาก Thor) มาแทน ซึ่ง Anthony Hopkins ขโมยซีนหนักมาก สมราคาดาราออสการ์ ทั้งเรื่องเราจดจำลุงแกได้คนเดียวอะ คิดดู

นอกจากจากฝั่งบริติชแล้ว ยังมีตัวละครที่ดูไร้ประโยชน์และไร้ความจำเป็นอีกมากมาย เช่น เด็กหญิงไร้บ้านวัย 12 ขวบ Izabella (Isabela Moner) ที่เผือกไปทุกสถานที่เกิดเหตุและเล่นใหญ่ทะลุจอ ทั้งที่นางหามีความสำคัญต่อเส้นเรื่องไม่ (สงสัยชินจากการเล่นละครทีวี – -) ทั้งนี้ยังไม่รวมถึง Cogman (Jim Carter) หุ่นยนต์พ่อบ้านอเนกประสงค์ ที่เหมือนดรอยด์มากกว่าทรานส์ฟอร์มเมอร์ เหมือนโคลนมาจาก C-3PO ใน Star Wars อย่างไรอย่างนั้น

ส่วน Lennox (Josh Duhamel) สุดหล่อคนเดิม (เพิ่มเติมคือผมขาวและเลื่อนยศ) กลับมาอีกครั้ง หลังจากหายหน้าไปในภาค 4 โดยภาคนี้ทหารอย่างเขาจำต้องอยู่ในขบวนการ Transformers Reaction Force (TRF) คอยกวาดจับหุ่นยนต์ทรานส์ฟอร์มเมอร์สให้รัฐบาล

แต่ไม่ว่าพระนางจะเปลี่ยนมากี่คนไม่รู้แหละ สำหรับเรา Bumblebee (Erik Aadahl) เป็นพระเอกตัวจริงของหนังแฟรนไชส์นี้ ทุกวันนี้นี่ทนดูเพราะ Bumblebee ภาคแยกภาคเดี่ยวของ Bumblebee ออกก็จะดู~ Bumblebee จะไปอยู่ยุคนาซีก็จะไป~ ส่วนหุ่นยนต์ตัวอื่น ๆ ก็พูดมากเหมือนเดิม บทจะขำก็ขำแหละ แต่บทน่ารำคาญก็น่ารำคาญ ไร้สาระ

หนังช่วงแรกน่าเบื่อ ยังดีที่มุกบางมุกฟาดอยู่ (ส่วนใหญ่มาจากลุง Hopkins กับดรอยด์ Cogman) แต่ยังไง ๆ จุดขายของเรื่องก็ยังคงเป็นฉากบู๊แอ็คชั่นของเหล่าหุ่นยนต์ทั้งหลายเหล่านี้ และฉากแปลงร่างเป็นรถหรู ๆ สวย ๆ ของพวกทรานส์ฟอร์มเมอร์ส (หรือพาหนะอื่น ๆ อย่างรถถัง เรือดำน้ำ หรือไดโนเสาร์ ภาคนี้เขาก็มาหมด) ก็ต้องยกนิ้วให้ Michael Bay เพราะเขากำกับฉากแอ็คชั่นได้สนุก มัน(ส์)สะใจ ทั้งภาพและเสียง CG เนียนเป๊ะทุกกระเบียดนิ้ว ภาพ 3D ก็ของจริงแท้ทรูมาทั้งเรื่อง (จนเวียนหัว)

แนะนำเลยว่า ความวินาศสันตะโรเบอร์นี้ต้องดูใน IMAX3D เท่านั้น เพราะเขาทำมาดีมากจริง ๆ ถ่ายด้วยกล้องไอแม็กซ์ถึง 98% (อีก 2% เหลือไว้ทำไม?) ในทางกลับกัน หากเราดูโรงธรรมดา หรือรอดูแผ่น หรือโหลดบิตเถื่อน ๆ มาดูในคอมที่บ้าน นี่คือจบเลยนะ เพราะหนังเรื่องนี้เนื่ย ถ้าหากไม่ใช่ IMAX3D แล้ว หนังไม่เหลืออะไรเลย เนื้อเรื่องก็ไม่มี ความสนุกก็งั้น ๆ มันไม่บิลท์ มันไม่อิน ดีไม่ดี เบื่อ ง่วง หาว นอน จบ.

สรุป Transformers 5: The Last Knight หนังวนลูปเดิม ๆ และมีความยาวเกินความจำเป็น (แต่ก็สั้นกว่าและสนุกกว่าภาค 4 นะ) อันเป็นผลมาจากการพยายามสร้างจักรวาลให้กับหนัง ใส่เส้นเรื่อง และยัดตัวละครมากเกินเหตุจนคอนโทรลอะไรไม่ได้เลย มันจึงออกมาเหมือน “ตำมั่ว” ที่ไม่อร่อย ไม่มีสารอาหาร กินเล่นฆ่าเวลาได้อย่างเดียว หรือดูหน้าตาความอลังการเว่อร์วังพูนจานเป็นอย่างเดียวพอ

แต่ถามว่า หากไม่ได้ชิมแล้วจะเสียดายมั้ย… ก็ไม่อะ… แต่ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยมีหนังอะไรให้เลือกนัก… ก็ดู ๆ ไปก็ได้… แต่เอาสมองไว้ที่บ้าน ดูเอามันส์ แล้วจะดี…

 

คะแนนตามความชอบส่วนตัว 6/10

ป.ล. ช่วงขึ้น end credit มีฉากแถม รอไม่นาน ไม่ทันจะลุกก็มาละ แต่มันก็ไม่มีอะไรมากนะ คือปูไปภาคหน้าเบา ๆ (เออ มันยังจะสร้างอีก ไม่จบง่าย ๆ จ้าาาา)

Share this:

  • Click to share on Facebook (Opens in new window)
  • Click to share on Twitter (Opens in new window)
  • Click to share on Pinterest (Opens in new window)

Related

Total
0
Shares
Share 0
Tweet 0
kwanmanie

Movie Blogger | Essay Tutor

111 comments

Comments navigation

Older comments
Newer comments
  1. Pingback: cialis prescription prices
  2. Pingback: order ivermectin for humans
  3. Pingback: buy ivermectin on line
  4. Pingback: how to get ivermectin
  5. Pingback: ivermectin tablet
  6. Pingback: cost of ivermectin 1% cream
  7. Pingback: ivermectin 6 mg tablets
  8. Pingback: 1unexpected
  9. Pingback: Top 17 นางเอก Transformer - Sen Ti
  10. Pingback: where to buy propecia cheap

Comments navigation

Older comments
Newer comments

Comments are closed.

Trending Posts
  • Homepage
    Homepage
  • รีวิว Bridgerton: บริดเจอร์ตัน วังวนรัก เกมไฮโซ
    รีวิว Bridgerton: บริดเจอร์ตัน วังวนรัก เกมไฮโซ
  • ทำความรู้จักกับหนัง exotic ทั้ง 4 ประเภท ของกระเป๋าแบรนด์ S'uvimol
    ทำความรู้จักกับหนัง exotic ทั้ง 4 ประเภท ของกระเป๋าแบรนด์ S'uvimol
  • รีวิว Don't Breathe 2: ลมหายใจสั่งตาย... อีกครั้ง...
    รีวิว Don't Breathe 2: ลมหายใจสั่งตาย... อีกครั้ง...
  • รีวิว Mona Lisa Smile : 1950s Feminist
    รีวิว Mona Lisa Smile : 1950s Feminist
Follow Me
  • Instagram
  • Facebook
  • Twitter
  • YouTube
Contact
Bangkok, Thailand
LINE ID: @kwanmanie
kwanmanieisworking@gmail.com
ABOUT KWANMANIE

ขวัญ จบอักษรศาสตร์ จุฬาฯ เป็นบล็อกเกอร์ ชอบดูหนัง อ่านหนังสือ ซื้อกระเป๋า เลี้ยงแมว เลี้ยงต้นไม้ และเป็นติวเตอร์ เน้นสอน Essay Writing

KWANMANIE
  • Home
  • Courses
  • Films
  • Books
  • Lifestyle & Perspective
  • Study
  • About Me
Movie Blogger | Essay Tutor

Input your search keywords and press Enter.