ล่าสุดประเทศไทยได้เสนอชื่อ “อาปัติ” หนังสยองขวัญสั่นสะเทือนพุทธศาสนา เป็นตัวแทนหนังไทยไปเข้าชิงออสการ์สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม ขณะเดียวกันทางประเทศอังกฤษก็ได้ส่งหนังผีอิหร่านของผู้กำกับ Babak Anvari เรื่อง Under the Shadow ซึ่งเป็นหนังสยองขวัญเชิงจิตวิทยาไปเข้าชิงรางวัลเดียวกัน
เรื่องราวของ Under the Shadow เกิดขึ้นในปี 1988 ที่กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน ซึ่ง ณ ในตอนนั้น ถือเป็นจุดตึงเครียดสุด ๆ ของอิหร่าน เพราะประเทศก็เพิ่งผ่านการปฏิวัติทางวัฒนธรรมมา (Cultural Revolution, 1980–1987) และสงครามอันยืดเยื้อระหว่างอิหร่านกับอิรัก (Iran–Iraq War, 1980-1988) ก็ยังไม่มีทีท่าจักจบจักสิ้น โดยผู้กำกับถ่ายทอดเรื่องราวจากประสบการณ์วัยเด็กของเขาซึ่งเกิดและโต ณ สถานที่แห่งนี้
ถึงแม้ฉากหลังของหนัง Under the Shadow จะเป็นประวัติศาสตร์ร่วมสมัย แต่หน้าหนังของ Under the Shadow คือหนังสยองขวัญเกี่ยวกับ “จิน (djinn)” ซึ่งเป็นวิญญาณในความเชื่อของอาหรับ (คล้าย ๆ กับซาตานของศาสนาคริสต์) ตามหลักมีทั้งวิญญาณแบบชั่วและแบบดี (เช่น ยักษ์จินนี่ในตะเกียงวิเศษ) แต่แน่นอนว่าจินใน Under the Shadow เป็นวิญญาณร้าย
เรื่องย่อ Under the Shadow
หลังจากไปร่วมเดินขบวนปฏิวิติทางวัฒนธรรมมา นักศึกษาแพทย์หญิง Shideh (Narges Rashidi) จึงถูกเชิญออกจากมหาวิทยาลัย แล้วตอนนั้น Iraj (Bobby Naderi) สามีของเธอซึ่งเป็นหมอ ถูกทางการส่งตัวไปประจำการกลางสมรภูมิรบ ทำให้เธอต้องอยู่บ้านกับ Dorsa (Avin Manshadi) ลูกสาวตัวเล็กโดยลำพัง
วันหนึ่งมีระเบิดมิสไซล์ลูกยักษ์ดิ่งลงมาทะลุเพดานตึกห้องเช่าที่สองแม่ลูกอาศัยอยู่ จู่ ๆ Kimia ตุ๊กตาตัวโปรดของ Dorsa ก็หายไปอย่างปริศนา แต่นั้นมาสองแม่ลูกก็พบแต่กับเรื่องราวลี้ลับสยองขวัญที่คาดไม่ถึง
“where there is fear and anxiety, the ‘winds’ blow”
รีวิว วิเคราะห์ วิจารณ์ Under the Shadow
Under the Shadow อาจเป็นหนังสยองขวัญที่ไม่ได้หนักไปในทางจิตวิทยาการเลี้ยงลูกหนักแน่นเท่า The Babadook ของออสเตรเลีย แต่ Under the Shadow ก็ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการสร้างบรรยากาศความหลอน ความสยองขวัญ อีกทั้งยังทำได้ดีในส่วนของการพยายามสะท้อนบริบททางวัฒนธรรมและความไม่เท่าเทียมทางเพศในอิหร่าน (หรือในศาสนาอิสลาม)
ก่อนผีจะเริ่มหลอกหลอน หรือแม้แต่ช่วงที่มันออกมาหลอกหลอนแล้วก็ตาม หนังนำพาคนดูไปรู้จักกับวิถีชีวิต แนวคิด ศาสนาและวัฒนธรรมของอิหร่าน เช่น โอกาสทางการศึกษาหรือความเจริญก้าวหน้าทางการงานของผู้หญิงมีจำกัดกว่าผู้ชาย เครื่องเล่นวิดีโอเป็นสิ่งต้องห้ามในครัวเรือน และผู้หญิงมุสลิมต้องคลุมผ้าฮิญาบ (hijab) เสมอ ถ้าไม่คลุมผ้าออกมาในที่สาธารณะ พวกเธอก็จะถูกทำโทษ
นางเอกเป็นคนหัวก้าวหน้า และอยากเป็นหมอ จึงไม่ค่อยเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ (จนกระทั่งมาเจอกับตัวในเรื่องนี่แหละ) ตลอดเรื่องเราจะเห็นนางเอกคลุมผ้าฮิญาบน้อยครั้ง แต่ละครั้งคือห่มไปงั้น ๆ ด้วยความจำเป็นต้องห่ม ไม่ได้ห่มด้วยความเต็มใจหรือศรัทธา นอกจากผ้าจะใช้ปกคลุมร่างกายสตรีตามคำสั่งสอนของศาสนาอิสลามแล้ว ในหนังเราจะพบว่าผ้าคลุมถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ความกลัวของนางเอกด้วย เช่น มาในรูปแบบของผ้าห่ม หรือผ้าคลุมรูโหว่หลังคาบ้านที่ทะลุ เป็นต้น
คนไทยอย่างเราอาจไม่คุ้นเคยกับวิญญาณ “จิน (djinn)” ของอาหรับ แต่เราการันตีเลยว่า ผีอิหร่านเจ้านี้นางไม่ได้มาเล่น ๆ เพราะนางมาพร้อม ๆ กับความกลัวของมนุษย์เรานี่แหละ ที่ใดมีความกลัว ที่นั่นก็มี จิน แถม จิน นี่อารมณ์เหมือนตัวในหนัง It Follows ฉบับวิ่งได้เลย กล่าวคือ มันสามารถแปลงเป็นตัวอะไรก็ได้ และจะมาโผล่มาที่ไหนเมื่อไรก็ได้
ความน่ากลัวขั้นกว่าคือ ผีอิหร่านเจ้านี้ไม่ได้มาหลอกหลอนเพื่อฆ่าแกงหรือลากมนุษย์ไปเป็นตัวตายตัวแทนอะไรมันอย่างเดียวนะ มันเล่นกับของรักของหวงที่มนุษย์แต่ละปัจเจกเรายึดติดด้วย เช่น ลูกสาวตัวเล็กของนางเอกนางจะติดตุ๊กตาตัวโปรดตามประสาเด็ก เรียกว่าติดตุ๊กตาแจจนคนดูรำคาญถึงขั้นอยากตบอีเด็กนี่เลยทีเดียวแหละ แล้วเจ้าผีจินมันก็จะเอาของรักนั้นไปซ่อน ทำให้สองแม่ลูกหนีเจ้าผีบ้านี่ไปไหนไม่ได้นอกเสียจากจะ Let it go
โดยสรุป Under the Shadow เป็นหนังสยองขวัญที่เล่าเรื่องแปลกใหม่สำหรับมุมมองคนไทยคนพุทธหลายคน สอดแทรกบริบททางศาสนาและวัฒนธรรมของอิหร่านอย่างแยบยล ใครชอบหนังสยองขวัญสไตล์ The Babadook หรือ It Follows ต้องดูเลย น่ากลัว สดใหม่ เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ มุมกล้องดี ถ่ายภาพดี การแสดงเป็นเลิศด้วย คะแนนตามความชอบส่วนตัว 8.5/10
พูดตรง ๆ นะ ถ้า Under the Shadow นี้ไม่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน nominee เข้าชิงออสการ์หนังต่างประเทศยอดเยี่ยมล่ะก็… อาปัติ ของไทยน่ะหรือ… อย่าหวังเลย
Under the Shadow เข้าฉายที่ไทย 13 ต.ค. 2016 นี้
<div id=”SC_TBlock_184997″ class=”SC_TBlock”>loading…</div>
<script type=”text/javascript”>var SC_CId = “184997”,SC_Domain=”n.ads1-adnow.com”;SC_Start_184997=(new Date).getTime();</script>
<script type=”text/javascript” src=”http://st-n.ads1-adnow.com/js/adv_out.js”></script>
43 comments